อัพเดทสปอร์ต

เชลซี แสดงความสนใจคว้าตัว ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีงบเตรียมไว้เพื่อการนี้สูงถึง 60 ล้านยูโร แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือสิงห์บลูส์ อยากได้นายด่านใหม่มาแทน เกปา อาร์ริซาบาลากา โดยมีเป้าหมายหลักคือ แยน โอบลัค แต่ติดที่นักเตะมีค่าฉีกสัญญากับแอตเลติโก มาดริด แพงระยับที่ 120 ล้านยูโร ด้วยเหตุนี้ เชลซีเลยงัดแผนสองด้วยการหันไปล่าเฮนเดอร์สัน ซึ่งทำผลงานในช่วงยืมตัวกับเชฟฯ ยูไนเต็ด ได้ดี โดยเชื่อว่ามือกาววัย 23 ปี มีค่าตัวราว 60 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าโอบลัคเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว สนับสนุนเนื้อหา

เอ็นริเก เซเรโซ ประธานสโมสรแอตเลติโก มาดริด ยืนยันด้วยตัวเองว่าจะไม่ยอมปล่อย แยน โอบลัค นายทวารทีมชาติสโลเวเนีย วัย 27 ปี ให้กับเชลซี หรือทีมใดก็ตามที่ตกเป็น ข่าว ด้วยแน่นอน "ผมพูดออกสื่อบ่อยมากจนเกินพอแล้วว่า โอบลัคยังมีสัญญาอยู่กับแอตฯ มาดริด และเขาก็คือผู้รักษาประตูที่เก่งสุดในโลก ณ เวลานี้ ฉะนั้นผมไม่ยอมปล่อยให้ย้ายทีมแน่แม้จะได้รับข้อเสนอสุดงามจากทีมใหญ่อื่นๆมากมาย" เถ้าแก่ใหญ่กล่าวกับ Marca "นอกจากโอบลัคแล้ว สโมสรเราก็ยังอัดแน่นไปด้วยนักเตะระดับท็อปของโลกมากมาย ฉะนั้น เขาย่อมมีความสุขที่ได้เล่น ฟุตบอล และเป็นคนสำคัญของทีมแน่นอน" "การที่เด็กของเราตกเป็นข่าวลือร่วมกับทีมอื่นเยอะขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะเขาคือผู้รักษาประตูที่ทำผลงานได้โดดเด่นต่อเนื่องหลายปีและผ่านการพิสูจน์แล้วว่าไม่มีใครเหนือกว่าจริงๆ" สนับสนุนเนื้อหา

รายงาน ข่าว จากสื่อในประเทศอิตาลีเปิดเผยว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยื่น 65 ล้านยูโร หวังคว้า คาลิดู คูลิบาลี แต่กลับถูก นาโปลี ปฏิเสธข้อเสนอไป คูลิบาลี ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังอันดับต้นๆของโลก ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากหลายทีมใหญ่ทั่วยุโรปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปราการหลังวัย 29 ปีกำลังตกเป็นข่าวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เนื่องจาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องการเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งกองหลังเป็นการด่วน ล่าสุด สื่อแดนมักกะโรนีระบุว่า แมนฯ ซิตี้ ยื่น 65 ล้านยูโรหวังปิดดีล คูลิบาลี แต่ นาโปลี ปัดข้อเสนอทิ้งไป เนื่องจากพวกเขาต้องการ 75-80 ล้านยูโร สนับสนุนเนื้อหา

ความเคลื่อนไหวของถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ล่าสุด "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตกเป็น ตามข่าวระบุว่าค่าตัวของตอร์เรสอยู่ที่ 21 ล้านปอนด์ พร้อมสัญญายาว 5 ปี ซึ่งแข้งชาวสแปนิชรายนี้เล่นได้ทั้งปีกซ้ายและขวา รวมถึงกองกลางตัวรุก ผลงานในฤดูกาลล่าสุด ยิงไป 6 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 44 นัด ปีกดาวรุ่งวัย 20 ปี กลายเป็นเป้าหมายของหลายทีมดังทั่วทั้งยุโรป ทั้ง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ  สนับสนุนเนื้อหา

วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าวันเดอร์คิดวัย 21 ปี ทีมชาติไนจีเรีย ของลีลล์ จ่อที่จะบรรลุข้อตกลงย้ายไปร่วมทัพนาโปลีเต็มทีในตลาดซื้อขายนักเตะรอบที่จะถึงนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวตกเป็น ข่าว หนาหูกับบรรดาบิ๊กทีมในศึก ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก  อังกฤษ โดยรายงานจากสื่อหลายสำนักในฝรั่งเศสและอิตาลี เปิดเผยข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่า โอซิมเฮน ได้จรดปากกาเซ็นสัญญา 5 ปีกับทัพอัซซูรา พร้อมออปชั่นที่จะขยายสัญญาออกไปได้อีก 1 ปี สนับสนุนเนื้อหา

ไปชมคาดการณ์ 11 ตัวจริงคนแรก รวมถึงแผนผังการเล่นของ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ที่จะได้ออกสตาร์ตในฤดูกาล 2020/21 ว่าหากในที่สุดแล้วทีมดังแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สามารถปิดดีล 4 นักเตะที่มี ระบบ 4-3-3 :  ระบบ 4-2-3-1 : สนับสนุนเนื้อหา

เจมี่ วาร์ดี้  ศูนย์หน้าตัวเก่งของ "จิ้งจอกสยาม"  เลสเตอร์  ซิตี้ สโมสรแห่งศึก  พรีเมียร์ลีก  อังกฤษ ผงาดคว้าตำแหน่ง ดาวซัลโวลีก ประจำฤดูกาล 2019/20 หลังทำประตูไปได้ทั้งสิ้น 23 ประตู ซึ่งด้วยตัวเลขดังกล่าวทำให้ กองหน้าวัย 33 ปี ทำได้เหนือกว่า ปิแอร์ เอริก- โอบาเมย็อง กองหน้าจาก อาร์เซน่อล และ แดนนี่ อิงส์ ดาวยิงของ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ยิงได้ 22 ประตูเท่ากัน นอกจากนี้ยังถือเป็นนักเตะที่อายุมากที่สุดที่ได้ครอบครองรองเท้าทองคำ ( Golden Boot ) ทำลายสถิติเดิมของ ดีดิเยร์ ดร็อกบา ตำนานกองหน้า เชลซี ที่เคยครองรางวัลนี้ในซีซั่น 2009/2010 ด้วยวัย 32 ปี อันดับดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 1.เจมี่ วาร์ดี้ ( เลสเตอร์ ซิตี้ ) 23 ประตู 2.ปิแอร์ เอริก- โอบาเมย็อง (อาร์เซน่อล) 22 ประตู 2.แดนนี่ อิงส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน) 22 ประตู 4.ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้) 20 ประตู 5.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) 19 ประตู 6.แฮรี่ เคน (สเปอร์ส) 18 ประตู 6.ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) 18 ประตู สนับสนุนเนื้อหา

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา  ผู้จัดการทีมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกอาการดีใจแบบสุดๆ หลังสามารถพาทีมจบซีซั่นด้วยการคว้าอันดับ 3 ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอล  ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ โดยเกมนัดสุดท้ายของซีซั่น "ปีศาจแดง" สามารถบุกไปเอาชนะ  เลสเตอร์  ซิตี้ ได้ถึงถิ่น 2-0 ทำให้เก็บสามแต้มสำคัญ เพิ่มเป็น 66 แต้ม จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 3 ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า เชลซี ที่มีแต้มเท่า "นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ผมพยายามทำทีมตามแนวทางของผม ผมภูมิใจกับความพยายาม และมุ่งมั่นของนักเตะทุกคน เราสู้กันเป็นทีม เราสร้างทีมตามวัฒนธรรมของเรา" "ก่อนที่จะจบซีซั่น มีสื่อหลายสำนักคาดการณ์กันว่าเราน่าจะจบที่ 6 หรือ 7 ของตาราง ดังนั้นนี่จึงเป็นเรื่องดีมากๆ ที่สยบเสียงวิจารณ์เหล่านั้น มันทำให้ผมมั่นใจ และเชื่อในแนวทางที่พยายามทำ" "การคว้าอันดับ 3 กับทีมชุดนี้ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับทุกคน แต่ในฤดูกาลหน้าเราจะพัฒนาตัวเองให้ทำอันดับที่สูงขึ้นไปอีก รวมถึงมีเรื่องท้าทายในรายการ ยูฟ่า ชปล. ด้วย" กุนซือชาวนอร์เวย์ เปิดใจ สำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซ

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา  ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายสำคัญสุดสำหรับทัพปีศาจแดงต่อจากนี้คือการไล่จี้ระดับของ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ทัน "ถึงแม้พวกเราจะมีความสุขกับผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ แต่อย่าลืมนะว่ายังไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่นิดเดียว" กุนซือ ชาวนอร์เวย์ กล่าวกับ MUTV "สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องแสดงให้เห็นว่ายังสามารถยกระดับความแกร่งขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ ในทุกด้าน เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลและมีอุปสรรคสุดโหดรอคอยอยู่เต็มไปหมด" "และด้วยความที่เป้าหมายหลักคือการไล่จี้ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ให้ทันโดยด่วน เราต้องตระหนักเอาไว้เสมอว่าห้ามหย่อนวินัย ห้ามเผลอ ห้ามผ่อนคลายจนเกินไปนัก เพราะหากพลาดแค่นิดเดียวพวกเขาก็จะพัฒนาหนีห่างเรามากขึ้นกว่าเดิมอีกแน่" สนับสนุนเนื้อหา

เควิน เดอ บรอยน์ กลางรุกระดับโลกของ  แมนเชสเตอร์ ซิตี้  ประกาศชัดเจนว่าอยากพาทัพเรือใบสีฟ้าคว้าถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลนี้มาครองเพื่อเป็นของขวัญวันอำลาให้แก่ ดาบิด ซิลบา นั่นเอง "ซีซั่นหน้าพวกเราทุกคนจะต้องคิดถึง ซิลบา กันสุด ๆ แน่" KDB กล่าวกับ Manchester Evening News "เขาคือนักฟุตบอลที่เป็นแบบอย่างอันดีงามในทุก ๆ ด้านให้แก่เหล่าดาวรุ่ง ซึ่งผมเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน ฉะนั้นจึงอยากทำให้ซีซั่นนี้จบแบบสวยงามที่สุดโดยเฉพาะการคว้าแชมป์ UCL เพื่อเป็นของขวัญวันอำลา" "เราสองคนเล่นฟุตบอลด้วยกันเกือบทุกวันติดต่อกันนานถึง 5 ปีแล้ว ผมจึงกล้ายืนยันว่า ซิลบา นี่แหละคือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแท้จริง" "น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยได้รับคำยกย่องชื่นชมเท่าไหร่ แม้จะประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วนกับ แมนฯ ซิตี้ แต่สำหรับพวกเราถือเป็นเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้ร่วมงานกับเขาสุด ๆ เลยล่ะ" สนับสนุนเนื้อหา

เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังมหาอุตม์ของ  ลิเวอร์พูล  เชื่อว่านับจากนี้เป็นต้นไป คู่แข่งทุกทีมทั้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเวทียุโรปจะกระสันอยากคว้าชัยชนะเหนือทัพหงส์แดงกันสุด ๆ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่น่าสนใจสำหรับพวกตนเช่นกัน "ไฮไลท์สำคัญของฤดูกาลนี้สำหรับผมคงไม่ต่างกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นหรอก นั่นคือการพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จนั่นเอง" บิ๊กเวิร์จ กล่าวกับ BT Sport "มันคือความฝันที่ผมตั้งเป้าไว้ตั้งแต่วันแรกที่เซ็นสัญญา เพราะรู้ว่าสิ่งนี้สำคัญต่อ แฟนบอล และสโมสรอันสวยงามแห่งนี้มากขนาดไหน อย่าลืมนะว่ามันยากสุด ๆ จนทีมล้มเหลวต่อเนื่องยาวนานถึง 30 ปีโน่น" "อย่างไรก็ตาม ทุกคนทำงานหนักร่วมกันจนทีม แข็งแกร่ง ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องฟอร์มเท่านั้น แต่รวมถึงสภาพจิตใจด้วย พวกเราโฟกัสกันไปทีละเกม ๆ ซึ่งผมอยากให้รักษาความสม่ำเสมอต่อเนื่องแบบนี้เอาไว้ได้นาน ๆ ไม่ใช่แค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้น นี่แหละคือความท้ายอันน่าตื่นเต้นสำหรับ ลิเวอร์พูล" สนับสนุนเนื้อหา

ริวัลโด้ ตำนานลูกหนังทีมชาติบราซิล เชื่อสุดใจว่าดาวเตะรุ่นหลานอย่าง ริชาร์ลิสัน จะตัดสินใจย้ายออกจาก  เอฟเวอร์ตัน  ไปอยู่กับสโมสรใหญ่ ๆ ในช่วงปิดฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน "ผมค่อนข้างตื่นเต้นกับช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่มาก เพราะน่าจะมีผู้เล่นระดับท็อปมากมายย้ายทีมกันด้วยมูลค่ามหาศาล และเชื่อว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ริชาร์ลิสัน ของ เอฟเวอร์ตัน " น้ายาว กล่าวกับ Betfair "แน่นอนว่าเขาทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งภายใต้การดูแลของยอดกุนซืออย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ แถมยังมีแนวโน้มจะพัฒนาฝีเท้าขึ้นเป็นผู้เล่นระดับท็อปในเร็ว ๆ นี้ด้วย แต่นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้สโมสรใหญ่ ๆ ต้องรุมจีบ" "สิ่งที่กำลังจะพูดต่อไปนี้ ไม่ใช่ว่ารู้สึกดูถูกเหยียดหยาม เอฟเวอร์ตัน นะอย่าเข้าใจผิดล่ะ แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ริชาร์ลิสัน คงอยากยกระดับตัวเองไปเล่นใน ยูฟา แชมเปียนส์ลีก อย่างจริงจังบ้างแล้วล่ะ ฉะนั้นหากมีทีมอื่นยื่นข้อเสนอราคาแพง ๆ มาให้ เราได้เห็นบิ๊กดีลเกิดขึ้นชัวร์" สนับสนุนเนื้อหา

ศึก ฟุตบอล   พรีเมียร์ลีก  อังกฤษ ฤดูกาล 2019-2020 รูดม่านปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อย โดยกว่าจะได้บทสรุปสถานการณ์ของทุกสโมสรต้องบอกว่าลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในส่วนของตำแหน่งแชมป์ลีก ถือว่าได้แชมป์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อนจบโปรแกรมถึง 7 นัด เมื่อ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เดินหน้ากวาดแต้มเป็นว่าเล่น 99 คะแนน ก่อนผงาดคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้งในรอบ 30 ปี ทิ้งห่างแมนฯ ซิตี้ อันดับ 2 ถึง 18 แต้ม ขณะที่ในส่วนของการลุ้นท็อปโฟร์ ต้องบอกว่าขับเคี่ยวกันจนเกมสุดท้ายทีเดียว เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกเอาชนะ  เลสเตอร์  ซิตี้ 2-0 สามารถจบอันดับที่ 3 ของตาราง ทำให้ เชลซี หล่นลงไปอยู่อันดับที่ 4 อย่างไรก็ตามทั้ง 4 ทีมก็ได้สิทธิ์แข่งขันในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลหน้าทั้งหมด ด้าน "จิ้งจอกสยาม"  เลสเตอร์ ซิตี้  ที่พลาดแพ้คาบ้านในเกมสุดท้ายจบอันดับที่ 5 ของตาราง จะต้องหล่นไปเล่นในรายการ ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่คว้าอันดับ 6 ก็จะได้ไปเล่นใน ยูโรปา ลีก ในรอบคัดเลือก รอบสอง ไปดูกันที่โซนท้ายตารางกันบ้าง แอสต

เจสซี ลินการ์ด  แนวรุกฟอร์มดิ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นที่ต้องการในท้องตลาด เมื่อมี 4 ทีมในพรีเมียร์ ลีกแสดงความสนใจอยากได้ตัว แม้ต้นสังกัดจะไม่อยากปล่อยก็ตาม ดาวเตะวัย 27 ปี อยู่ในช่วงเวลา เลวร้าย หลังฟอร์มการเล่นตกหล่นอย่างรุนแรง โดยฤดูกาลที่ถูกชะงักเบรกเพราะเชื้อ โควิด -19 เจ้าตัวเพิ่งยิงได้เพียงประตูเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมี 4 ทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่เชื่อมั่นว่าแข้งจอมขยันวิ่งจะกลับมาคืนฟอร์มเดิมหากได้ปรับปรุงตัวในสถานที่ใหม่ และนั่นทำให้แข้งชาวอังกฤษถูกจับตามองในช่วงตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ รายงานระบุว่า 4 ทีมที่ต้องการลายเซ็นของลินการ์ด ประกอบด้วย  เลสเตอร์  ซิตี้,  เอฟเวอร์ตัน , เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่กำลังจะมีเจ้าของใหม่เป็นกลุ่มทุนมหาเศรษฐีแห่งซาอุดิอาระเบียนั่นเอง สนับสนุนเนื้อหา

กลายเป็นประเด็นหลังเกมที่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถบุกไปเอาชนะ  เลสเตอร์  ซิตี้ 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก  นัดปิดท้ายฤดูกาล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในเกมดังกล่าว  เจสซี่ ลินการ์ด  ปีกตัวจี๊ดถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 77 ก่อนที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+8 จะแย่งบอลจาก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แล้วซัดเข้าไปโล่งๆ ให้ทีมย้ำชัยไป 2-0 หลังจบเกม มีแฟนบอลอังกฤษรายหนึ่งชื่อ แอนโทนี่ จอห์นสัน ได้โพสต์ใบเสร็จที่เจ้าตัวได้วางเงินแทงแบบขำๆ ในร้านพนันถูกกฎหมายว่า ลินการ์ด จะไม่ทำประตู หรือแอสซิสต์ในฤดูกาล 2019/2020 ซึ่งในใบเสร็จนั้นเจ้าตัวแทงไป 3.30 ปอนด์ (ประมาณ 125 บาท) ซึ่งหากเป็นจริงเจ้าตัวจะได้เงินกลับคืนมาถึง 135.30 ปอนด์ (ประมาณ 5,140 บาท) แต่ทันทีที่ ดาวเตะวัย 27 ปี ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายเท่ากับว่าเจ้าตัวชวดเงินรางวัลไปทันที นอกจากนี้ยังมีแฟนบอลอีกรายที่วางเงินเดิมพัน 10 ปอนด์ ด้วยเงื่อนไขเดียวกันที่เรตแทง 1 จ่าย 66 แต่ท้ายสุดก็ชวดเงินรางวัลไปถึง 670 ปอนด์ (ราว 27,000 บาท) สำหรับประตูของ เจสซี่ ลินการ์ด ถือเป็นการทำประตูได้อีกครั้งในรอบ 583 วัน