ไทสัน vs โฟร์แมน ศึกที่ไม่รู้ใครกลัวใครจน "อาลี" ต้องขอมีเอี่ยว
Photo : tss.ib.tv
มันเหมือนเรื่องราวของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ขับเคี่ยวกันมาตลอดชีวิตนักกีฬาอาชีพ ตัวของ โฟร์แมน นั้นเก่งแค่ไหนใครก็รู้ เขาเคยถือเข็มขัดเเชมป์เฮฟวี่เวต 3 สถาบันทั้ง WBA,WBC และ IBF อย่างไรก็ตามแม้จะเก่งขนาดนั้น เขากลับไม่ป๊อปปูลาร์เท่ากับ อาลี ... ทั้ง ๆ ที่ในช่วงเวลาซึ่ง โฟร์แมน ถือเข็มขัดเเชมป์โลก เขาดีกว่า อาลี หลายด้าน เพราะอายุน้อยกว่าถึง 7 ปี ความสดและความหนักถือว่าข่ม "แชมป์มหาชน" อย่าง อาลี มิดเลยทีเดียว
ที่บอกว่าเรื่อง อาลี และ โฟร์แมน นั้นเหมือนกับเรื่องราวของ โรนัลโด้ กับ เมสซี่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้คำตอบว่าใครเก่งกว่าใครอย่างเดียว แต่อีกมุมหนึ่งที่หลายคนไม่รู้คือ ในช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างก็อยากเป็นเบอร์ 1 แฟนคลับของทั้งคู่ต่างก็บอกว่านักชกขวัญใจของตนนั้นเจ๋งกว่า ...
แต่ความจริงแล้ว แม้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเริ่มต้นจากความชิงดีชิงเด่น ทว่าสุดท้ายหลังจากได้ขึ้นชกในไฟต์ที่ชื่อว่า The Rumble in the Jungle จบลง ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เปลี่ยนไป จากเคียดแค้นอาฆาต กลายเป็นยอมรับและให้ความเคารพ
"ผมยังจำได้ ในวันที่ผมเป็นแชมป์เฮฟวี่เวต จริง ๆ แล้วนักมวยยุคนั้นไม่ได้อยากถูกเรียกว่าแชมป์หรอก แต่ที่พวกเราทุกคนต้องการถูกเรียกคือ 'คนที่พิชิตอาลีได้” โฟร์แมน เริ่มเล่า
"การคว่ำอาลีคือสิ่งที่นักมวยในยุคนั้นต้องการ แต่ความจริงคือไม่มีใครที่เอาชนะเขาได้หรอก แม้กระทั่งคุณสามารถชนะเขาบนสังเวียนได้ คนอื่นๆ ก็จะบอกว่า อาลี ไม่สมควรแพ้ ... และถึงแม้ อาลี จะเป็นคนแพ้ แฟน ๆ ก็ยังอยากได้ลายเซ็นกับอ้อมกอดจาก อาลี มากกว่าคุณอยู่ดี"
"ความยิ่งใหญ่ของ อาลี คือสิ่งที่เขาทำต่างหาก มวยก็แค่เรื่องเล็ก ๆ ที่เขาทำได้ ตอนที่ผมมีเข็มขัดแชมป์โลก อาลี เริ่มแสดงตัวในการเปลี่ยนแปลงสังคมครั้งใหญ่ ไม่ว่าเขาจะไป ยุโรป, แอฟริกา, ซาอุดิอาระเบีย ทุกคนอยากจะสัมผัสเขา"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น